การร้อยไหมที่หน้าถึงใครจะว่าดี แต่ผมยังไม่ค่อยเชื่อ...
มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเรื่องการร้อยไหมให้หน้าตึงหน้ากระชับ ที่ปัจจุบันมีทั้งแบบ2D,3D,4D สุดแล้วแต่จะทำการตลาด บ้างก็บอกว่าทำให้หน้าเป็นตัวVเลย บ้างก็บอกว่าไหมจะสลายไปหมดใน6-8เดือน บ้างก็บอกว่าช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นเลือดใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ถ้าถามผม ผมคิดว่าเหมือนพูดความจริงครึ่งเดียว
ปกติต้องรู้ว่าการดึงหน้าคือการแก้ไขส่วนต่างๆของใบหน้าที่ยืดและคล้อยตามกาลเวลา ให้กลับมาตึงเหมือนเดิม แต่เนื่องจากดึงหน้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ เวลาจะผ่าตัดจึงต้องคล้อยค่อนข้างเยอะจึงจะคุ้ม จึงเป็นที่มาของการรักษาใบหน้าที่คล้อยไม่มากและไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่
การร้อยไหมมีหลายแบบแต่ที่โฆษณากันแพร่หลายในบ้านเราคือการร้อยไหมไปในชั้นผิวหนังเฉยๆ ไม่ได้มีการยึดการดึงรั้งอะไร สาเหตุที่ทำให้หน้าเหมือนตึงขึ้นเกิดจากปฎิกิริยาที่ร่างกายมีต่อไหมเฉยๆ ซึ่งเป็นการตอบสนองที่มีต่อไหมละลายทั่วๆไปหรือเป็นกระบวนการเดียวกันกับการอักเสบคือร่างกายจะหลั่งสารที่ทำให้เกิดการบวมตึงและมีเม็ดเลือดขาวมาเก็บกินสิ่งแปลกปลอมคือไหมเหล่านี้ จึงทำให้หน้าเหมือนกระชับขึ้น
แต่การร้อยไหมที่ทำกันมักจะใส่กันหลายสิบเส้นเพื่อให้เกิดปฎิกิริยาอักเสบที่ว่านี้มากๆจึงจะทำให้เห็นว่าหน้าตึงกระชับขึ้นจริง ในความเห็นของผมนะครับ
แล้วทำไมผมไม่เชื่อหรือไม่แนะนำ แรกเลยผมเห็นคนที่ไปร้อยไหมมาหลายคน ส่วนใหญ่ก็ตึงขึ้นเป็นเวลาสองสามเดือนแล้วก็เหมือนเดิม สองคือยังไม่มีข้อมูลการวิจัยทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือได้ว่าการร้อยไหมจะมีประโยชน์จริงๆ สามคือรายงานผลข้างเคียงระยะยาวยังมีไม่มากพอทำให้ไม่สามารถบอกผลกระทบในระยะยาวได้ ข้อมูลที่เอามาโฆษณาส่วนใหญ่ผมเชื่อว่ามาจากการวิจัยที่คุณภาพค่อนข้างแย่ คล้ายๆกับวิจัยการกินซุปไก่แล้วสมองดีอะไรทำนองนั้น
แต่อันตรายที่ร้ายแรงคงน้อย ถ้าแพทย์ที่ร้อยไม่ร้อยลงไปลึกเกินชั้นไขมัน ก็มีบ้างที่รายงานว่าร้อยไปโดนท่อน้ำลายใต้ใบหน้าขาด ก็คงถือว่าโชคร้ายจริงๆ แต่ที่ผมกังวลคือคุณภาพของผิวในอนาคต เพราะร่างกายเราเมื่อมีการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมเช่นไหมร้อยหน้าเนี่ย อนาคตจะสามารถกลายเป็นแผลเป็นได้ จริงเท็จแค่ไหนคงต้องพิสูจน์กัน
วิชาการทางการแพทย์เนี่ยปกติต้องมีการวิจัยอย่างละเอียดก่อนที่จะนำมารักษาคนไข้ได้ ในฐานะอาจารย์โรงเรียนแพทย์ ผมคงต้องการดูข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ก่อนจะแนะนำคนไข้ได้ครับ